การจัดบ้านให้เป็นระเบียบสำคัญต่อคุณภาพชีวิตมากกว่าที่คิด เพราะพื้นที่รกรุงรังไม่เพียงส่งผลต่อความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ยังกระทบต่อสุขภาพกายและใจได้ด้วย การอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เป็นระเบียบทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล และขาดสมาธิในการทำงาน นอกจากนี้เมื่อบ้านรก มีฝุ่นเยอะ ยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและภูมิแพ้อีกด้วย การจัดบ้านให้น่าอยู่จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าต่อสุขภาพในระยะยาวที่ไม่มองข้าม
10 เทคนิคจัดบ้านให้น่าอยู่เป็นระเบียบ เพิ่มพื้นที่ใช้งาน
เทคนิคง่ายๆ ต่อไปนี้จะช่วยให้คุณจัดบ้านให้น่าอยู่ เป็นระเบียบ และเพิ่มพื้นที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะลงมือทำด้วยตัวเองหรือกำลังวางแผนรีโนเวทบ้านใหม่ เทคนิคเหล่านี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันที เพื่อเปลี่ยนบ้านธรรมดาๆ ให้กลายเป็นพื้นที่ที่ทั้งสวยงามและใช้งานได้จริง
1. แบ่งพื้นที่ใช้งานให้ชัดเจน
การแบ่งพื้นที่ใช้งาน หรือแบ่งโซนต่างๆ อย่างชัดเจน ถือเป็นหัวใจสำคัญของการจัดบ้านให้น่าอยู่ เช่น โซนพักผ่อน โซนทำงาน หรือโซนรับประทานอาหาร พร้อมจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้สอดคล้องกับกิจกรรมในแต่ละโซน เช่น โซฟาและทีวีควรอยู่ในโซนพักผ่อน โต๊ะรับประทานอาหารควรอยู่ใกล้กับห้องครัว โต๊ะทำงานควรอยู่ในมุมที่มีแสงสว่างเพียงพอ การแบ่งโซนที่ชัดเจนจะช่วยให้ใช้งานพื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และดูเป็นระเบียบมากขึ้น
งานเหล็กช่องแสงแต่งกระจกพร้อมประตู ผลงานจากรัดเกล้า
จัดสรรพื้นที่ภายในบ้านด้วยงานเหล็กช่องแสงแต่งกระจก มาพร้อมประตูสไตล์มินิมอล ผลงานจากรัดเกล้า อีกหนึ่งผลงานที่เราใช้เหล็กสเปคพิเศษ พร้อมเทคนิคการออกแบบซ้อนเหล็กชิ้นต่อชิ้นประกอบกันเป็นงานวงกบเพื่อรองรับกระจก และเลือกใช้สีโมโนโทน ทำให้ดูสบายตา เข้ากับพื้นที่โซนพักผ่อน และรับกับการสไตล์การตกแต่งบ้านโดยรวมอย่างลงตัว
2. เพิ่มแสงสว่างให้ห้องดูโปร่ง
แสงสว่างเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บ้านดูโปร่ง กว้าง และน่าอยู่ขึ้นได้ ควรจัดวางเฟอร์นิเจอร์ สิ่งของต่างๆ ไม่ให้บังช่องแสงธรรมชาติ เลือกใช้ผ้าม่านโปร่งแสงแทนผ้าม่านทึบ ติดตั้งกระจกบานใหญ่เพื่อสะท้อนแสง และช่วยเพิ่มมิติให้ห้อง หรือเลือกใช้โคมไฟที่ให้แสงสว่างทั่วถึงโดยเฉพาะในมุมอับมุมมืด ก็จะช่วยให้พื้นที่ดูโปร่งและสบายตามากขึ้น
นอกจากนี้ การติดตั้งหน้าต่างบานฟิกซ์จะช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในบ้านได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวหรือความปลอดภัย ส่วนใหญ่มักเลือกติดตั้งในตำแหน่งที่สูงทำให้ยากต่อการมองเห็นจากภายนอก และยังนิยมติดตั้งร่วมกับกรอบเหล็กดัดอิตาลีที่สามารถออกแบบลายเหล็กดัดอิตาลีได้อย่างที่ต้องการ
หน้าต่างบานฟิกซ์เหล็กดัดอิตาลี ผลงานจากรัดเกล้า
3. ใช้สีและวัสดุที่ช่วยให้ห้องดูกว้าง
นอกจากการจัดบ้านให้เป็นระเบียบ หรือเคลียร์บ้านให้โล่งแล้ว การเลือกใช้สีและวัสดุที่เหมาะสมยังช่วยให้บ้านดูกว้างขึ้นได้ง่ายกว่าที่คิด เลือกใช้โทนสีอ่อน เช่น สีขาว หรือสีพาสเทลสำหรับผนังและเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ เพราะสีอ่อนจะช่วยสะท้อนแสงและทำให้พื้นที่ดูโปร่ง ใช้วัสดุผิวมันวาวหรือกระจกเงาเพื่อสะท้อนแสงและเพิ่มมิติ หลีกเลี่ยงการใช้ลวดลายขนาดใหญ่หรือสีเข้มที่อาจทำให้พื้นที่ดูอึดอัด
ราวกันตกเหล็กอิตาลีสีดำตัดกับกำแพงสีขาว ผลงานจากรัดเกล้า
4. เชื่อมต่อพื้นที่ด้วยโถงทางเดิน
โถงทางเดินที่ออกแบบมาอย่างดี มีส่วนสำคัญในการจัดบ้านให้เป็นระเบียบ เพราะโถงทางเดินไม่เพียงทำหน้าที่เชื่อมต่อพื้นที่ต่างๆ เข้าด้วยกัน แต่ยังช่วยกำหนดทิศทางการสัญจรในบ้านให้เป็นระบบ เดินไปมาระหว่างห้องต่างๆ ได้สะดวก และยังสามารถออกแบบบริเวณโถงทางเดินให้มีตู้เก็บของ ชั้นวางหนังสือ หรือพื้นที่วางขอตกแต่ง ของสะสมที่เจ้าของบ้านชื่นชอบได้ ช่วยให้การจัดการพื้นที่ใช้สอยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โถงทางเดินและประตูเหล็กดัดอิตาลี ผลงานจากรัดเกล้า
5. เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชัน
เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชันคือตัวช่วยสำคัญในการจัดบ้านให้โล่งสำหรับพื้นที่จำกัด แนะนำให้เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ เช่น โซฟาเบดที่กลางวันนั่งพักผ่อน กลางคืนเป็นเตียงนอน โต๊ะพับที่สามารถเก็บเมื่อไม่ใช้งาน หรือเตียงที่มีลิ้นชักเก็บของด้านล่าง นอกจากนี้ควรเลือกขนาดที่เหมาะกับพื้นที่และการใช้งานจริง ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป
6. ใช้พื้นที่แนวตั้งให้เกิดประโยชน์
การใช้พื้นที่แนวตั้งเป็นเทคนิคการจัดระเบียบบ้านที่ช่วยประหยัดพื้นที่ได้อย่างมากโดยเฉพาะบ้านที่มีพื้นที่จำกัด การติดตั้งชั้นลอยตัวบนผนัง ช่วยสร้างพื้นที่จัดเก็บใหม่โดยไม่รุกล้ำพื้นที่ใช้งานในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นชั้นวางหนังสือ ของตกแต่ง หรือตะขอแขวนอุปกรณ์ต่างๆ วิธีนี้จะช่วยให้บ้านดูเป็นระเบียบ และใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าที่สุด
7. จัดระเบียบของใช้เป็นหมวดหมู่
การจัดระเบียบของใช้ให้เป็นหมวดหมู่ เป็นวิธีจัดบ้านไม่ให้รกที่หลายคนอาจมองข้าม เพราะช่วยให้บ้านดูเป็นระเบียบ ค้นหาของได้ง่าย เพียงแยกประเภทสิ่งของตามลักษณะการใช้งาน เช่น ของใช้ในครัว เครื่องเขียน หรือเครื่องสำอาง ใช้กล่องหรือตะกร้าจัดเก็บแต่ละหมวดหมู่ และติดป้ายบอกชื่อให้ชัดเจน วิธีนี้ไม่เพียงช่วยให้หยิบใช้สะดวก แต่ยังช่วยควบคุมปริมาณสิ่งของไม่ให้มากเกินไปจนทำให้ดูรก
8. สร้างพื้นที่เก็บของตามจุดต่างๆ
การสร้างพื้นที่เก็บของตามจุดต่างๆ เช่น ใช้พื้นที่ใต้บันได ช่องว่างใต้หน้าต่าง หรือพื้นที่เหนือประตูเป็นชั้นวางของ ดัดแปลงพื้นที่ว่างระหว่างเสาให้เป็นตู้เก็บของ หรือเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีช่องเก็บของในตัว วิธีนี้จะช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บโดยไม่เปลืองพื้นที่ใช้สอย ช่วยซ่อนของใช้และเคลียร์บ้านให้โล่งได้อย่างแนบเนียน
9. กำจัดของที่ไม่จำเป็น
การกำจัดของที่ไม่จำเป็นต้องใช้แล้วเป็นขั้นตอนแรกของการจัดบ้านให้น่าอยู่ อาจแยกของเหล่านั้นเป็น 3 กลุ่ม คือ เก็บไว้ใช้ เก็บบริจาค และเก็บไปทิ้ง โดยพิจารณาจากความถี่ในการใช้งาน และสภาพสิ่งของว่ายังใช้งานได้อยู่หรือไม่ สำหรับของที่มีความทรงจำ อาจถ่ายรูปเก็บไว้แทนการเก็บตัวชิ้นงาน หรือเลือกเก็บเฉพาะชิ้นที่มีความหมายมากที่สุด วิธีนี้จะช่วยเคลียร์บ้านให้โล่งและเพิ่มพื้นที่ว่างได้เช่นกัน
10. ทางเดินเข้าออกต้องสะดวก
ควรเว้นระยะห่างระหว่างเฟอร์นิเจอร์ให้เพียงพอสำหรับทางเดินอย่างน้อย 80-100 เซนติเมตร หลีกเลี่ยงการวางเฟอร์นิเจอร์ขวางทางเดินหลักหรือประตู โดยให้แต่ละโซนเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ การจัดวางแบบนี้ไม่เพียงช่วยให้เดินสะดวก แต่ยังเป็นหนึ่งในวิธีจัดบ้านไม่ให้รกที่หลายคนอาจนึกไม่ถึง
ยกระดับการจัดบ้านให้น่าอยู่ หรูหรามีสไตล์ด้วยงานเหล็กอิตาลี
การใช้งานเหล็กอิตาลีตกแต่งบ้านไม่เพียงช่วยเพิ่มความสวยงาม แต่ยังเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างลงตัว ด้วยความแข็งแรงทนทานและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ งานเหล็กอิตาลีจึงตอบโจทย์การจัดบ้านให้น่าอยู่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งพื้นที่ใช้งานภายในบ้านด้วยงานเหล็กอิตาลี ทำโถงเดินจัดระเบียบภายในบ้าน หรือเฟอร์นิเจอร์เหล็กดัดอิตาลีที่ผสมผสานความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า
รัดเกล้าเรารับทำงานเหล็กอิตาลีตั้งแต่ออกแบบ ผลิต และติดตั้ง โดยทีมดีไซเนอร์ที่เข้าใจในงานเหล็กและงานดีไซน์ สามารถออกแบบงานเหล็กตกแต่งให้เข้ากับบ้านได้ทุกยุคสมัย และทีมช่างผลิตที่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง
Tel : 094-9262494
ID Line : radklao96
Line : https://line.me/ti/p/fMMOXWmmHr
Facebook : https://www.facebook.com/radklaosteelandart/
Website : www.radklao.com